================================================== -->
หันกลับมาถามถึงข่าวที่ว่ากำลังจะซื้อบ้านให้อยู่ใกล้เรือนเคียงกับแฟนสาวอย่าง พิงค์กี้ ย่านเกษตร-นวมินทร์ ว่าเท็จจริงประการใด อั้ม ยอมรับว่าคิดไว้อยู่เหมือนกัน เวลานี้กำลังมองหาบ้านที่เหมาะสมอยู่ จริงๆ ผมมองไว้นานแล้ว ว่าอยากจะได้บ้านแถวเลียบทางด่วน หรือไม่ก็เกษตร-นวมินทร์ เพราะหลังๆ งานอยู่แถวนั้นทั้งนั้นเลย การเดินทางมันสะดวก แล้วอีกอย่าง คุณพ่อผมกับน้องสาว ก็จะอยู่แถวๆ รามอินทรา ซึ่งก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ถ้าอยู่ตรงนี้ ก็จะสะดวกกว่าสำหรับทุกคนในครอบครัว แต่ยังไม่ได้คิด ว่าจะต้องอยู่ใกล้กันแค่ไหน เพราะยังไม่มีเวลาไปดู แค่คิดว่าคงอยู่ละแวกเส้นทางนี้ ผมตั้งใจซื้อ เพราะพ่อผมจะได้มาอยู่ใกล้ๆ กันด้วย ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักนิด ที่ผ่านมามัวแต่ถ่ายละคร เลยยังไม่ได้ดูว่าตรงไหนถึงจะดี แล้วราคาเท่าไหร่ คงไม่ได้คิดว่าจะต้องให้ครอบครัวเราไปมาหาสู่กัน แต่คิดว่าถ้าอยู่ใกล้ๆกัน มันก็ดีกว่า เดินทางสะดวก หลายๆ อย่าง เพื่อนๆ ญาติๆ ผม ก็อยู่แต่ละแวกนี้ทั้งนั้นเลย อั้มกล่าวสรุป
แคสติ้งเยอะขนาดนี้ แสดงว่าฝันอยากเข้าวงการบันเทิงจริงๆ แรกๆ ไม่ได้คิดว่าจะมุมานะขนาดนั้น บอกกับแม่ตลอดจะไม่ไป เวลาเลิกเรียน ก็คิดแต่ว่าจะกลับบ้านนอนดูทีวี พอแม่บอกว่าให้ไปแคสติ้ง ก็งอแง อ้างว่าการบ้านเยอะ แต่แม่จะบังคับให้ไป แต่พอได้ลองทำ ก็รู้สึกว่ามันเริ่มสนุกดี ก็ไปสิ ไม่เสียหายอะไร คุณแม่ให้ไปตั้งแต่อายุ 15-16 จริงๆ ตอนแรกเข้ามาเพราะโมเดลลิ่ง และแม่ก็ไม่ได้สนับสนุน แต่พอเริ่มทำ แม่ก็บอกว่าก็ดีนะ ดูกล้าแสดงออกดี คุณแม่ก็อยากให้มีโอกาส ให้ลองไปดู
โพสต์บล็อกทั้งหมด(369)
การจำแนกประเภท: หลู่จงเน็ต
smm ผล บอล,สำหรับเรื่องต่อไปของอั้มคือ พระจันทร์ลายพยัคฆ์ เป็นละครบู๊ ความที่เราเล่นบทแนวร้ายๆ ไปแล้ว ตลกไปแล้ว ก็ควรจะเปลี่ยนบ้าง จะได้ไม่เหมือนเดิมก็เท่านั้นเอง ถ้าถามว่าบทไหนที่อั้มอยากเล่นอีก บทที่พูดน้อยๆ ก็ดี เพราะที่ผ่านมาบทจะยาวมาก ตั้งใจว่าต่อจากนี้ไปอั้มจะรับละครทีละเรื่องแล้วแหละ เพราะรับหลายเรื่องแล้วเหนื่อยเกินไป ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย เพราะตอนนี้อั้มมีธุรกิจคือทำร้านอาหารชื่อว่า D WA กับร้านกระเป๋า Buon Fine กับร้านอาหารถืว่าประสบความสำเร็จมาก คิดว่าจะต่อสัญญาไปอีกสักสองเดือน เพราะคิดถึงและเสียดายที่ช่วงหลังมันซาลง เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจและมีกฏหมายห้ามสูบบุหรี่ในร้านออกมา คนเลยลดน้อยลง เห็นอั้มมีทั้งงานแสดงมีทั้งธุรกิจอย่างนี้ก็เถอะ แต่อั้มก็มีวันว่างนะ วันว่างของอั้มก็คือวันที่เลิกงานเร็ว วันหยุดเต็มวันจะน้อยมาก ถ้าหยุดยาวสามวันก็จะนอนตื่นสาย แล้วออกไปทำเล็บ ตอนนี้ถ้ามีเวลาหยุดยาวก็จะไปหาเพื่อนที่อเมริกา อยากไปลาสเวกัส เพราะไม่เคยไปเลย และอั้มเป็นคนชอบช้อปปิ้งเหมือนกันค่ะ อย่างเห็นกระเป๋าใบหนึ่งที่ชอบมาก ถ้าไม่ซื้อกลับบ้านก็คิดอยู่นั่นแหละ กลัวมันหมด เพราะฉะนั้นถ้าชอบจริงๆ ก็จะรีบซื้อเลย ช่วงนี้อั้มชอบเข้าวัด นี่ก็เพิ่งไปอินเดียมา ไปถึงก็นั่งสมาธิ แต่ก็ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ เพราะมัวแต่กังวลกับการวิ่งไปเก็บใบโพธิ์ที่หล่นลงมาจากต้น เขาบอกว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เก็บไว้กับตัวแล้วจะโชคดี อั้มตั้งใจจะเอามาแจกเพื่อนๆ ด้วย ก็เลยต้องลุกหลายครั้ง อั้มกล่าว-เปลี่ยนแปลงไปเยอะไหมตั้งแต่เข้าวงการมา?หลุยส์ - ผมเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ตอนนี้ผมอายุ 27 ปี เกือบ 19 ปีแล้วที่อยู่วงการ คิดว่ามันเป็นการเดินทางที่ยาว มันมีทั้งขึ้นและลง ถ้าเราแฮปปี้ที่จะเดินทางตรงนี้เราก็เดินต่อไป ที่ผ่านมามีขึ้นๆ ลงๆ เป็นเรื่องธรรมดา ต้องเข้าใจกับตรงนี้ เราจะอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดไม่ได้หรอก -วางแผนชีวิตอะไรไว้กับวงการนี้บ้าง?หลุยส์ - มันก็มีครับ ก็พยายามค้นหาธุรกิจอย่างโน้นอย่างนี้ อย่างเช่นร้านอาหาร ลองทำไปเรื่อยๆ ก็สนุกดีไปอีกแบบ แต่มันก็เครียดหนักกว่าการเป็นดารา ส่วนเรื่องงานในวงการจะอยู่ไปถึงแค่ไหนนั้นอันนี้คนดูเป็นคนตัดสิน เราพยายามทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเองครับ อย่างนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนดูอยากให้อยู่คู่วงการไปอีกนานเท่านาน ราคา บอล คืน นี้ ทุก ลีกพร้อมกับเสริมต่อ ว่าไม่เคยระวังภาพลักษณ์ตัวเอง แต่เป็นไปตามธรรมชาติ มันไม่ค่อยมีเวลาด้วย ไลฟ์สไตล์แอฟไม่มีอะไรผาดโผน หรือว่าเสี่ยงอะไรแบบนั้นด้วย ก็ไปไหนกับเพื่อนปกติ จริงๆ เราก็ไม่ได้ระวังนะ เพราะเราก็ไปกับเพื่อนเรา ครอบครัวเรา แฟนเรา ก็ไปไหนก็ได้ มันไม่ผิด (กับพี่อ๋อทะเลาะกันมั้ยเรื่องของเวลา) ไม่นะ เพราะเขาเองก็ทำงานหนักเหมือนกัน เราก็โตๆ กันแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ถ้าเป็นเรื่องงานก็จะไม่มีปัญหา (เห็นคนอื่นแต่งกันไม่อยากแต่งบ้างเหรอ) อุ๊ย...รุ่นแอฟยังเหลืออีกตั้งเยอะแยะ นอกจากนี้ แอฟยังกล่าวต่ออีก ว่าถึงจะคบหากับแฟนหนุ่มมา 10 กว่าปีแล้ว แต่เรื่องระยะเวลาไม่ใช่ประเด็นทำให้ต้องแต่งงานกัน ส่วนที่หลายคนบอกว่าคบกันยิ่งนานยิ่งดีนั้น ก็ดีคนละแบบ คือยิ่งนานเราก็ยิ่งรู้จักตัวตนมากขึ้น มีความเข้าใจมากกว่า ข้อเสียคงมีแน่นอน มันคงไม่ตื่นเต้น ฮันนีมูนก็คงไม่ตื่นเต้น เพราะเราเจอกันมา 10 กว่าปีแล้ว มันก็ได้อย่างเสียอย่าง (10 กว่าปีไม่เคยมีข่าวกับคนไหนเลย) ถามนี่ต้องพิจารณาตัวเองหรือเปล่า (หัวเราะ) ไม่มีอะไร ก็ใช้ชีวิตปกติ แอฟกล่าวทิ้งท้ายแสดงว่าตอนนี้ก็เตรียมงานบ้างแล้ว ที่ได้เห็นข่าวมา แต่ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นเมื่อไหร่ ต้องรอให้เขาออกมาพูดเองดีกว่า ก็แสดงความยินดีกับเขาด้วย เขาก็อายุเยอะแล้ว เขาก็อยากจะมีครอบครัว อยากจะมีลูก มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ รู้สึกงงบ้างมั๊ยเพราะก่อนหน้าไม่ได้มีแววจะก็คิดคนหนึ่งไม่ใช่คนนี้ การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี เปลี่ยนไปทางที่ดีมันก็ดีขึ้น อย่างนี้น้อยเขาก็โอเคขึ้นเยอะ กับพี่ยุ้ยยังไม่เคยเจอ กับน้องเอิงก็เจอบ้าง มีแซวบ้างมั๊ยว่าทำไมถึงฟ้าแลบอย่างนี้ แซวไม่ได้ครับ เรื่องนี้ห้ามแซว มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขามากกว่า ก็ไม่กล้าไปถามเขามาก
ล่าสุดอดีตนักร้องสาวได้เดินทางกลับมาประเทศไทย ภายหลังเดินทางไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย ต่อมา ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังอดีตนักร้องสาว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงติดต่อสอบถามไปยัง นายอนุชา ลังประเสริฐ ผู้จัดการส่วนตัวของปุ๊กกี้ โดยนายอนุชาเปิดเผยว่า เป็นเรื่องจริงที่ปุ๊กกี้เลิกกับนายปาณสารแล้ว ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานและเดินทางไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย ปุ๊กกี้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของสายการบินเอมิเรตส์ ส่วนนายปาณสารทำงานเป็นเซลส์ขายรถ นายอนุชากล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อประมาณปีที่แล้ว ปุ๊กกี้เดินทางกลับประเทศไทย และเปรยว่าอยากจะกลับมาทำงานในประเทศไทย พูดเหมือนอยากจะกลับเข้าวงการบันเทิงอีกครั้ง เพราะเป็นสิ่งที่ชอบและถนัดที่สุด แต่ขณะนั้นยังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน ปุ๊กกี้กลับไปออส เตรเลีย จนเมื่อไม่นานมานี้ ปุ๊กกี้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง และทราบว่าเลิกกับสามีแล้ว โดย ปุ๊กกี้บอกว่าสาเหตุที่เลิกกัน เพราะชีวิตไม่ตรงกัน จึงไม่อยากจะฝืน แต่การเลิกกันในครั้งนี้ ไม่ได้มีสาเหตุจากทะเลาะกัน ทุกฝ่ายต่างจบกันด้วยดี สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปุ๊กกี้จะเป็นคนเปิดเผยเอง โดยในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 14.00 น. ปุ๊กกี้จะไปงานที่โรงแรมเจ้าพระ ยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก งานนี้ใช่ว่าจะจบลงง่าย ๆ เพราะก่อนหน้าที่สาวแตงโมจะออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวความรักครั้งนี้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีกระแสข่าวเมาธ์มาว่า เป็นเพราะตอนนี้สาวโมนั้นมีหนุ่มอื่นคอยอาสาดูแลรับส่งอยู่แล้วทั้งนี้สาวแหม่มกล่าวว่า แม้ว่าเจ้าตัวกับผู้กำกับคนดังจะเลิกรากันแล้วก็ตาม แต่เชื่อไม่ส่งผลกระทบต่อซิทคอมเป็นเป็นต่ออย่างแน่นอน และยืนยันบรรยากาศในกองถ่ายไม่มาคุแน่ปรับตัวกันอย่างไรบ้าง ก็ปรับตัว เราไม่ใช่ว่าเป็นแฟนกับเขาอย่างเดียว มันรู้สึกอึดอัด ก่อนหน้านี้กะว่าจะแต่งอายุ 35 ปี พอบวชแล้วก็รู้สึกว่ายัง ผมยังไม่พร้อมมีลูก ผมยังอยากเที่ยวทุกประเทศในโลก คิดว่าจะบวชแล้วเบียดมั๊ย ยังครับ เราก็ต้องทำงานต่อไป ส่วนทางนั้นเขาก็ต้องเรียนหนังสือหนักแล้วต้องทำงานอีก คือ เขาไม่ได้คิดว่าชีวิตจะต้องแต่งงาน แล้วมีเวลาพักมั๊ย ตอนนี้อ้นได้แต่นอนกับออกกำลังกาย แต่น้องเขาไม่ได้นอนกับออกกำลังกาย น้องเขาเรียนได้โล่มากเลย น้องเขาเรียนที่จุฬาฯ คณะเศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ทำพวก ติดต่อต่างประเทศ เขาเรียนหนังสือเก่งมาก ตอนนี้ก็เห็นว่าจะต่อเอกเลย
ก่อนหน้านี้:ตาราง คะแนน ฟุตบอล ทั่ว โลกทดลองใช้ฟรี
ต่อไป:สูตรยิงปลาการพนันฟรี
Lie Zong Murong Shi 2021-04-23
Tang Gaozu :ส่วนในเรื่องของการเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ศันสนีย์ วิสุทธิธาดานั้น ทางด้านทนายความของหมอดูคนดังกล่าวว่า
หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น ทางด้านเจ้าของโครงการยอมโผล่ ที่แท้ไม่ใช่ใครที่ไหนอดีตแฟนเก่าของสาวพลอย จินดาโชตินั่นเอง
คาร์เมน 2021-04-23 00:35:32
อย่างนี้จึงทำให้รับงานอีเว้นท์เพิ่มหรือเปล่า ก็ไม่เกี่ยวกัน บางทีงานมันคอนเน็คกัน หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็จะรู้จักกับลูกค้าโดยตรง บางทีเป็นลูกค้าของคลื่นชวนให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ เราก็ยินดี แล้วคลื่นอื่นมาติดต่อบ้างมั๊ย ก็มีบ้าง แต่ก้อยยังรัก Fat radio อยู่ ยังอยากจะช่วยคลื่นเต็มที่ไปก่อน อีกอย่าง ก้อยก็รับงานแสดง ซึ่งงานตรงนี้ก็ค่อนข้างหนักเหมือนกัน ที่ยังลังเลไม่ไปค่ายอื่น เป็นเพราะเรื่องเงินเดือนหรือเปล่า ไม่ใช่เลย เรื่องนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เรื่องรายได้เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากๆ คือก้อยเกิดมาจาก Fat radio เป็นคลื่นที่เรารัก เราจะไปคนเดียวก็ไม่ใช่ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ช่วยให้ถึงที่สุดดีกว่า ถึงอย่างไรคลื่นต้องอยู่ต่อไป
ประเทศที่ถูกคุมขัง 2021-04-23 00:35:32
วันนี้เก้ากำลังก้าวเดินอยู่ในถนนสายมายาอย่างเต็มตัว มีผลงานต่าง ๆ ออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งละครและโฆษณา ล่าสุดเก้าแย้ม ๆ มาว่ากำลังจะไปเล่นหนังเรื่องใหม่ให้กับค่าย GTH (กระแซะให้จนเมื่อยแล้วเก้ายังไม่ยอมบอกเลย) ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรต้องติดตามกันต่อไป หลังจากนั่งคุยกันได้สักระยะหนึ่ง เรายังล้วงข้อมูลลับ ๆ มาได้แบบที่เก้ายังไม่เคยเผยที่ไหนมาก่อน นั่นคือเก้ามีวงดนตรีเป็นของตัวเองชื่อว่า �กะหลั่ว� กับตำแหน่งมือกีตาร์ ส่วนฝีมือจะกะหลั่วเหมือนชื่อวงหรือเปล่านั้น เก้าได้แต่ส่งยิ้มหวานมาให้ เลยไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ถ้าอยากรู้เก้าบอกว่าต้องไปฟังกันเองที่โรงเรียนอมาตยกุล เพราะมีงานโรงเรียนเมื่อไหร่วงกะหลั่วเป็นได้รับใช้เพื่อน ๆ ทั้งโรงเรียนทุกครั้ง นี่คือความสามารถอีกอย่างหนึ่งของหนุ่มน้อยคนนี้ อยากรู้ว่าเก้าในวันนี้และในอนาคตเขาจะก้าวเดินไปทิศทางไหน ด้านการเรียนเขาจัดสรรเวลาอย่างไร บรรทัดต่อไปคือตัวตนของเก้า-จิรายุ เลือกการเรียนเป็นที่หนึ่งปรกติผมให้ความสำคัญกับการเรียนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ถ้ามีงานเข้ามาอาจจะต้องมีการหยุดเรียนบ้าง ในเรื่องของคิวการแสดง คุณแม่จะเป็นคนดูให้ครับ และพยายามเลี่ยงให้ไม่ชนกับเวลาเรียน อาจจะเป็นหลังเลิกเรียน หรือวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ หยุดก็ต้องหยุดครับ เพื่องานจะได้ไม่เสีย และงานที่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ผมต้องทำหน้าที่ทั้งสองอย่างให้ดี หน้าที่หลักคือตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด และถึงเวลาต้องตามงานให้ทันเพื่อน ๆ เรื่องการเรียนมาเป็นอันดับหนึ่ง กระจกสะท้อนภาพการเป็นนักเรียนม.3 ผมว่าผมเป็นคนขี้เกียจนะครับ (หัวเราะ) ถามว่าหัวดีไหมไม่รู้เหมือนกัน น่าจะอยู่ประมาณกลาง ๆ มากกว่า เกรดเฉลี่ยที่ผ่านมาได้ประมาณ 3 กว่า ๆ คือหลัง ๆ ผมไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ด้วย (ยิ้ม) ทำกิจกรรมเยอะไปหน่อยครับ ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไหร่ แต่จะอ่านตอนสอบรวดเดียวเลย ผมเป็นคนที่จำอะไรได้เร็วนะ อ่านปุ๊บจำแม่น แต่สอบเสร็จปุ๊บผมลืมทันทีเหมือนกัน (หัวเราะ) ผมเป็นคนที่เรียนได้หมดทุกวิชานะ คือผมไม่ชอบอะไรที่อยู่ในกรอบเท่าไหร่ คือเรียนแบบที่ไม่ต้องมีกระดาน มีเก้าอี้ก็ได้ ผมจะชอบขึ้นมาทันทีเลย ผมชอบอะไรที่มันเป็นปฏิบัติมากกว่า วิชาการผมได้นะแต่อาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับอนาคตที่อยากจะเรียนและอยากจะทำ บอกตรง ๆ ว่ายังไม่รู้เลยครับ เพราะยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าผมชอบอะไร (หัวเราะ) ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียวว่าอะไรที่ผมทำแล้วมีความสุขอยากจะทำตรงนั้นให้เต็มที่ อย่างตอนนี้มีเรื่องของดนตรีกับศิลปะ ถ้าเป็นในแง่ของศิลปะอยากทำอะไรที่แปลกใหม่ คิดขึ้นมาเอง ออกแบบสิ่งของ ประมาณนี้ครับ ผมคิดอยู่แล้วว่าจบไปอยากทำงานที่ไม่จำเจครับ เพราะผมเป็นคนที่เบื่อง่าย (ยิ้ม) เคยฝันอยากเปิดร้านอะไรสักอย่างที่คนเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ อยากให้คนเข้ามาในร้านเราแล้วเข้าใจโลกของผม ความสุขที่ได้ทำหนึ่งในนั้นคือดนตรี ผมเริ่มเล่นกีตาร์มาประมาณ 2 ปีแล้วครับ เล่นเมื่อตอนป.6 ปลาย ๆ ที่คิดอยากมาเล่นดนตรีตอนนั้นเป็นช่วงที่ว่างมาก ๆ ครับ และเป็นช่วงปิดเทอมด้วย ไม่มีอะไรทำ ผมเห็นเพื่อน ๆ เขาเล่นกีตาร์กันมาสักพักแล้ว ทำให้ผมคิดจะเล่นบ้างเท่านั้นเอง ไปซื้อกีตาร์ตัวละพันกว่าบาท ไปเรียนประมาณ 2-3 ครั้งแล้วก็เลิกครับ (หัวเราะ) ผมกลับมาฝึกที่บ้านเอง ซื้อหนังสือเพลงมาเปิดหัดเอง ประกอบกับผมหัดเล่นกับเพื่อน ๆ ด้วยเลยทำให้เป็นเร็วกว่าเดิม แต่กีตาร์ไฟฟ้าผมให้อาจารย์มาสอนที่บ้านครับ จะได้เทคนิคและเป็นเร็ว ๆ ด้วยครับฉายแววเป็นนักดนตรี ตำแหน่งมือกีตาร์วงกะหลั่ว เรื่องดนตรีถ้ามีผู้ใหญ่ให้โอกาสในการทำงานเพลง ผมคงไม่ทิ้งแน่นอนครับ ส่วนตัวแล้วผมชอบเล่นเป็นวงมากกว่าที่จะร้องเพลง (ยิ้ม) ตอนนี้ผมเล่นดนตรีกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน มีวงเป็นของตัวเองครับ ชื่อวง กะหลั่ว (หัวเราะ) คือจริง ๆ วงนี้เขาตั้งชื่อกันมาก่อนแล้ว ก่อนที่ผมจะเข้ามาเป็นสมาชิกซะอีก คำว่ากะหลั่วอาจจะฟังแล้วขำ ๆ นะ แต่ในความคิดของผมนะ ชื่อวงกะหลั่ว แต่ถ้าเราเล่นดี คนดูเขาอาจจะเฮ้ย! ก็ได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งถ้าเล่นไม่ดีอย่ามาว่ากันนะ ก็ชื่อวงกะหลั่วไง (หัวเราะ) เก้าและเพื่อน ๆ ในวงกับเส้นทางของวงกะหลั่ว พวกเรายังไม่เคยไปประกวดวงดนตรีที่ไหนมาก่อนครับ เล่นแต่งานโรงเรียนอย่างเดียว (สาวกรี๊ดเยอะแน่ ๆ เราแอบแซวเก้า) ไม่มีเลยครับ (หัวเราะ) ตอนที่พวกผมเล่นนะ นั่งเงียบกันหมดเลย แต่จริง ๆ ตอนที่ผมยังไม่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกวงนี้เพื่อน ๆ เขาทำเดโม แต่ถ้ามีงานเล็ก ๆ ผมอาจจะไปนำเสนอให้เขาฟังก็ได้ครับ ผมเล่นตำแหน่งกีตาร์ครับ คือผมไม่ได้คิดว่าจะเล่นดนตรีแล้วพาเพื่อนไปดังเพราะว่าผมเป็นนักแสดง เป็นดารา ผมแค่อยากเป็นนักดนตรีเท่านั้นเอง ทุกคนมีจุดประสงค์เดียวกัน คือเราชอบดนตรีเหมือนกัน นักแสดง นักดนตรี กับความชอบที่แตกต่างผมชอบคนละแบบครับ ความรู้สึกของความเป็นนักแสดงเป็นงานที่ผมทำแล้วรู้สึกว่าประสบความสำเร็จมากกว่า เป็นนักดนตรีผมเล่นกับเพื่อนเฉย ๆ ผมเล่นเพราะผมรักดนตรี ผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมได้ทำ มันแตกต่างกันมากครับ เป็นนักแสดง ผมทำเพื่อครอบครัวได้ มันคือความภาคภูมิใจของผมเองด้วย สุดท้ายเก้าฝากเรื่องเรียนถึงเพื่อน ๆ วัยเดียวกันมาว่า อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนตั้งใจเรียน อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องความรัก ขอให้ตั้งใจเรียนเป็นอันดับหนึ่ง และขอให้อยู่ในขอบเขตและความพอดี เรื่องทำกิจกรรมต้องทำแบบได้พอดีเหมือนกัน ให้เรื่องเรียนอยู่ในมาตรฐาน รู้จักหน้าที่ของตัวเอง จากนั้นค่อย ๆ ไปทีละก้าว วันหนึ่งคงไปถึงความฝันของตัวเอง...เหมือนเก้าที่ค่อย ๆ ก้าวไปทีละสเตปอย่างมั่นคง โดยมีกำลังใจที่สำคัญคือครอบครัวเป็นแรงผลักดันที่มา "การศึกษาวันนี้" ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : นายหรั่ง http://campus.sanook.com/teen_zone/star_05314.php,-เปลี่ยนแปลงไปเยอะไหมตั้งแต่เข้าวงการมา?หลุยส์ - ผมเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ตอนนี้ผมอายุ 27 ปี เกือบ 19 ปีแล้วที่อยู่วงการ คิดว่ามันเป็นการเดินทางที่ยาว มันมีทั้งขึ้นและลง ถ้าเราแฮปปี้ที่จะเดินทางตรงนี้เราก็เดินต่อไป ที่ผ่านมามีขึ้นๆ ลงๆ เป็นเรื่องธรรมดา ต้องเข้าใจกับตรงนี้ เราจะอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดไม่ได้หรอก -วางแผนชีวิตอะไรไว้กับวงการนี้บ้าง?หลุยส์ - มันก็มีครับ ก็พยายามค้นหาธุรกิจอย่างโน้นอย่างนี้ อย่างเช่นร้านอาหาร ลองทำไปเรื่อยๆ ก็สนุกดีไปอีกแบบ แต่มันก็เครียดหนักกว่าการเป็นดารา ส่วนเรื่องงานในวงการจะอยู่ไปถึงแค่ไหนนั้นอันนี้คนดูเป็นคนตัดสิน เราพยายามทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเองครับ อย่างนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนดูอยากให้อยู่คู่วงการไปอีกนานเท่านาน。แต่ดูเหมือนก้อยจะเกรงใจเป้อยู่เหมือนกันเวลาแต่งตัวเซ็กซี่? ''ก็เป็นเพราะเป้ด้วยส่วนหนึ่ง แต่โดยส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวก้อยเองด้วย เพราะเราไม่ใช่เป็นคนลุกส์เซ็กซี่อยู่แล้ว พอลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้คนก็จะมองว่า เอ๊ย!...เออทำไมก้อยแต่งตัวอะไรอย่างนี้ แต่พอทำเออก็มันเป็นงานงานหนึ่ง และก้อยก็รู้สึกว่ามันเป็นแฟชั่นโชว์ แต่คนที่เห็นภาพจะรู้สึกว่าอุ๊ย! มันอาจจะเยอะไปไหม อะไรอย่างนี้ แต่คนที่อยู่ในงานเนี่ยคือมันแป๊บเดียวมากเลยค่ะ ภาพนิ่งกับภาพเคลื่อนไหว ถ้าคนเห็นมันต่างกันอยู่แล้ว ภาพเคลื่อนไหวคนเห็นแล้วมันก็ผ่านไป แต่ภาพนิ่งพอแชะมันก็ค้างอยู่อย่างนั้นนานๆ คนก็อาจจะไปโฟกัสเรื่องอื่นที่จะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องแฟชั่นมากกว่า'' ถ้ามีเซ็กซี่กว่านี้ได้ไหม? (หัวเราะ) ''ไม่แล้วค่ะ จริงๆ มันอยู่ที่ความสมัครใจของเราแต่ว่าถ้าเกิดเรารับงานเค้ามาแล้วเราก็อยากจะทำ ให้ดีที่สุด ณ ตรงนั้นก้อยก็ถือว่าเราทำงาน เราก็เต็มที่กับมัน จะได้ไม่ต้องเสียใจตามหลัง'' แล้วเป้ช่วยเลือกงานไหม? ''โอ๊ย...ผมไม่ยุ่งหรอกครับ ก็แล้วแต่เค้า มันเป็นงาน มันก็เลือกไม่ได้ ผมเข้าใจ''。
ไทเกิง 2021-04-23 00:35:32
เพชร ก็ย่อมเป็น เพชร วันยังค่ำ นาเดีย มีแววเป็น ดาวจรัสแสง ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว โดยได้เล่นละครเวทีอยู่บ่อยๆ เป็นนักกิจกรรมตัวยง ทั้งกีฬาสี เชียร์ ลีดเดอร์ ฯลฯไม่ใช่เรื่องยากส์ ที่จะกระโจนมาสู่วงการบันเทิง ยิ่งช่วงหลัง นาเดีย ทำให้หัวใจหนุ่มๆซู่ซ่า หลงเสน่ห์สาวหน้าหวาน นามเพราะ ใครๆเห็นชื่อ นาเดีย นึกว่าเป็น ลูกครึ่งฝรั่ง กันทั้งนั้น แต่ นาเดีย ยืนยันตัวเองเป็น ลูกเสี้ยว พ่อจีน แม่เป็นคนไทย นับถือศาสนาอิสลาม ใครๆต่างคิดว่า นาเดีย เป็น สาวสองบุคลิก จะดูเรียบร้อยก็ได้ จะดูเป็นสาวเปรี้ยวเซ็กซี่ก็ได้อีก เป็นที่ฮือฮาในหมู่หนุ่มใจคะนอง เมื่อเห็น นาเดีย ลุกมาสลัดมาดสาวเรียบร้อย เปลี่ยนแนวมาโชว์ ความสาว ความขาว ของ สาววัยสะพรั่ง ทำเอาหนุ่มๆครางฮือ ไม่คิดว่า นาเดีย จะซ่อน ของดีไว้ข้างใน เป็นเรื่องแซวเล่นกันว่า ขนาดหนุ่มรุ่นน้อง บอล อัศนัย เทียนทอง ยังหลงความสวยที่นับวัน นาเดีย จะเพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ ขนาดหยอดคำหวานอยู่บ่อยๆ แต่ บังเอิญ นาเดีย คิดกับ บอล แค่น้องแค่นั้น...ก็จบไป!,ปากบอกว่าไม่มีอะไร แต่ก็มีหลายคนเห็นควงกันไปหม่ำข้าวด้วยกันบ่อยเหมือนกัน อย่างล่าสุดทั้งคู่ก็โดนแชะช็อตเด็ด สาวฟางนวดคลายเส้นให้หนุ่มออย ถึงข้างสนามฟุตบอลเลยทีเดียว。ครอบครัวแตกแยกมีผลกระทบต่อสิงโตไหมสำหรับผมไม่ เราเข้าใจว่าคงมีเหตุผลอะไรสักอย่าง แต่ว่าเหตุผลที่สำคัญเลยคือเขารักเรา แล้วเขาก็ทำทุกอย่างเพื่อเรา เพราะอย่างนั้น คงไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว หน้าที่ของผม คือเป็นลูกที่ดีของพ่อกับแม่ และถึงแม้ครอบครัวผมจะไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ผมก็พูดได้เต็มปาก ว่าผมมีครอบครัวที่อบอุ่น ผมไม่เคยขาดอะไร เพราะทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็เติมเต็มให้ผมได้หมด。
โมเข้าใจว่าหลายคนอยากทราบข่าวความเป็นมาเป็นไป ว่าความจริงเป็นยังไง โมเองก็อยากจะรู้ที่มาที่ไปเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ภายในครอบครัว แต่ถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ ก็ต้องมีคนใดคนนึงที่ไม่อยากให้เป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว เพราะฉะนั้นตัวโมก็ถือว่าคนที่อยู่วงการเต็มตัวคือโมไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ มันมีผลกระทบต่อโมค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ฉะนั้นก็ขอเวลาหาข้อมูลก่อนออกมาเปิดใจให้ทราบกันค่ะ ซึ่งสาวแตงโมยอมรับตอนแรกที่เห็นข่าวนั้น เจ้าตัวงงมาก เพราะเจ้าตัวเองก็ไม่ทราบที่มาที่ไปที่ชัดเจนเหมือนกัน อีกทั้งในครอบครัวของสาวโมก็ไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ พร้อมกับย้ำว่า เจ้าตัวกับคุณแม่นั้นก็มีการพบเจอกันเป็นปกติ จึงทำให้เจ้าตัวงงว่าทำไมหนังสือพิมพ์ถึงได้เอามาลง โดยสาวโมยังกล่าวอีกด้วยว่า ทางหนังสือพิมพ์รู้ข้อมูลบางอย่างก่อนที่เจ้าตัวและครอบครัวจะรู้เสียอีก ดังนั้นก็เลยจำเป็นต้องขอเวลาสักหน่อยเมื่อพร้อมจะเปิดใจให้สัมภาษณ์แน่นอน,ด้านคนใกล้ตัวของหนุ่มเต๋าเองก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรมากมายนักกล่าวสั้น ๆ เพียงแค่ว่า หนุ่มเต๋าเคยเปรย ๆ กับเพื่อน ๆ มานานมากแล้วถึงเรื่องที่ว่าอยากจะมีลูกเท่านั้น。ก่อนหน้านี้ เมื่อ 12 พ.ค. แตงโม-ภัทรธิดา สี เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีมือที่สามหลังจากลดระดับกันมาเป็นพี่ชายกับน้องสาว ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดี ไม่ได้มีการทะเลาะกันเลย เมื่อนักข่าวถามว่า สืบเนื่องมาจากปัญหาที่ฝ่ายนางเอกสาวเคยปันใจกับหนุ่มอื่นหรือไม่ แตงโม กล่าวว่า อาจจะมีส่วนบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้เอามาเป็นเหตุผลในการตัดสิน เหตุผลหลักน่าจะเป็นเรื่องของนิสัยส่วนตัวมากกว่า เรารู้สึกว่าเราไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอในการใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคตที่ยาวไกลกว่านี้ โมเองก็ไม่ดีพอสำหรับพี่ก้อง พี่ก้องเองก็ไม่ดีพอสำหรับโม คือเราต่างคนต่างก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคนรักกันในระยะยาวค่ะ 。
ทุ่งนา 2021-04-23 00:35:32
บวชแล้วได้อะไรบ้าง? "พอบวชเราก็คิดได้ถึงเรื่องใกล้ๆตัวพอครับ ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนอย่างจริงจังเลย เมื่อถึงเวลาทุกๆอย่างมันก็จะมาเอง ทุกวันนี้ การที่เราคิดถึงเรื่องอนาคตมากไปก็จะทำให้เราเป็นทุกข์ได้ ผมเองก็ไม่อยากเป็นทุกข์ ทำอะไรก็จะคิดใกล้ๆ อย่างอาทิตย์หน้ามีงานอะไร แค่นั้น" เหมือนจะปล่อยวางหรือเปล่า? "การปล่อยวางมันเป็นเรื่องยากครับ คือ เราจิตใจยังไม่สงบ ต่อให้มีหนังสือธรรมะอยู่ตรงหน้าอ่านไปมันก็ไม่ได้อะไร มันจะมีเวลาของมันแล้วเราจะสงบเอง", นอกจากงานแสดงแล้ว เหล่าคนดังยังฮิตทำกิจการอื่นๆเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย ส่วนใครทำอะไรกันบ้าง4 พิธีกรเปรี้ยวปากจะพาบุกตะลุยกันถึงถิ่นค่ะ。หายเฮิร์ตเลิกเศร้ารึยัง โสดมาปีนึงแล้ว เพิ่งหายจากอาการเฮิร์ตสามารถเดินห้างฯได้ ไม่ใช่เดินก้มหน้าก้มตาประสาทเสีย เพิ่งหายกลัวเวลามีคนมาทัก ถ้าเป็นช่วงก่อนใครมาทักความรักเป็นยังไงจะรู้สึกอย่าเพิ่งถามได้มั้ย เฮิร์ตมากสิ ก็แย่นะเพราะโตแล้วด้วย คนแก่ก็เงี้ย เป็นแผลหายช้าเป็นธรรมดา ตอนเลิกกันรู้สึกตกใจ ช็อกช่วงอกหักแรก ๆ ผอมโทรม รู้สึกแย่มาก ช่วงที่อกหักใหม่ ๆ อ๊อฟ บิ๊กแอส ง้อมั้ย ไม่ได้ง้อหรอกแต่เป็นห่วงกัน พอดีมีเรื่องพาดพิงไปถึงฟักแฟง ซึ่งมันไม่เกี่ยว เลยคุยกันต้องพูดแล้วไม่งั้นทุกคนโดนไปหมด เสียดายเวลาที่คบกัน ตอนแรก ๆ มีนะที่รู้สึกไม่ไหวชีวิตบัดซบ ยิ่งช่วงนั้นน้องสาวได้ แต่งงานด้วยสิ เค้ารู้จักกันทีหลัง คบกันสั้นกว่า ในมุมที่น้องสาวแต่งงานเราก็แย่ เราขายไม่ออก แต่พอเวลานึงมันไม่เกี่ยว มีคนเข้ามาจีบ มันก็มี แต่ทรายเป็นอย่างนี้ด้วยก็จะโอ้ย..ย อย่าเลยตอนนี้ดีขึ้นแต่ยังไม่พร้อมเปิดรับใคร เป็นคนคาดหวังกับความรัก ไม่นะ แต่เป็นคนเต็มที่กับความรัก ไม่รักคือไม่รักเลย รักคือรัก ไม่มีเผื่อใจ ทำไม่เป็นหรือให้คบไว้ 2-3 คนก็ทำไม่เป็นนะ เป็นคนทุ่มเทถ้ามีแฟนก็คือมีแค่นั้น พอไม่มีก็เกิดเสียหลักไปบ้าง เซไปเหมือนกัน แม่แนะนำหนุ่ม ๆ ไม่มีนะ แม่ไม่เคยซีเรียส จะมีแฟนหรือไม่มี แฮปปี้ชีวิตโสด สบายดีเพราะทรายไม่ใช่ผู้หญิงมาก เจอผู้ชายเป็นโขลง ๆ ดูเป็นผู้หญิงสวยสุดนะ แต่ผู้ชายก็จะบอกว่าทรายก็เหมือนผู้ชายนั่นแหละ (หัวเราะ) วันนึงสาวโสดขึ้นคาน คงเป็นสาวโสดที่เก๋ไก๋ ขึ้นคานก็ขึ้นไป ทรายเชื่อว่า บางวัน บางคนคงคิดถ้ามีแฟนคงดี แต่คงมีเหมือนกัน คนมีแฟนจะคิดอย่างนี้อยู่เป็นโสดดีกว่า ถ้าไม่มีแฟนทรายก็ไม่เดือดร้อน เพราะ รู้แล้วว่าถ้ามีแฟนแล้วเลิกมันแย่กว่า ดังนั้น ถ้ามีไม่ดีก็อย่ามีดีกว่านะ การมีแฟนแล้วเลิก มันหลอน ประสาทเสีย หาผู้ชายดีๆไม่ได้ก็บรรเลงดนตรีไทยซิจ๊ะ กำลังอินเทรนด์ ด้วยอ่ะ !!。